เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2534 สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาพัฒนบริหารศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทางสถิติประยุกต์ ตามมติสภาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยมีที่มาดังนี้

ทรงงานหนัก เนื่องจากต้องการข้อมูลความรู้ ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

หากพิจารณาภาพพระราชกรณียกิจจำนวนมากมายตั้งแต่ต้นรัชกาลที่ได้มีผู้บันทึกไว้ยามที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้เสด็จออกยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทยเพื่อเยี่ยมเยียนพสกนิกรและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จะพบว่าสิ่งที่พระองค์ท่านมีติดตัวตลอดเวลาคือแผนที่ กล้องถ่ายรูป ดินสอ และวิทยุสื่อสาร

ดังได้มีผู้ผลิตสารคดีและบทความต่างๆ เกี่ยวกับพระองค์ซึ่งได้เคยมีโอกาสกราบบังคมทูลสัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ต้องทรงงานหนัก และเสด็จ

พระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนพสกนิกรและทหารในทุกๆ ภาคของประเทศไทย โดยระบุว่า เพื่อไปแก้ไขปัญหาความยากจน และต้องการยกระดับความเป็นอยู่ ให้พสกนิกรมีความเป็นอยู่ที่ดี เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ทั้งนี้พระองค์จึงต้องมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกร เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาและแผนที่ที่พระองค์มีอยู่นั้นถูกต้องครบถ้วน

ขณะเดียวกัน เพื่อที่จะได้รู้ปัญหาของพสกนิกรเกี่ยวกับความยากลำบากในการดำเนินชีวิต และจะได้ข้อมูลเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเหล่านั้น ซึ่งขณะที่พระองค์ได้มีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรจะทรงบันทึกข้อมูล หาข้อมูลจากแผนที่ที่ทรงถือมา และบันทึกประเด็นต่างๆ ลงในสมุดบันทึก หรือถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายรูปที่คล้องไว้ที่พระศอ เมื่อกลับมาจนถึงที่ประทับจะยังทรงนำเอาข้อมูลและปัญหาที่ได้รับมา มาศึกษา ค้นคว้า จนได้วิธีการแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจจะต้องเสด็จพระราชดำเนินออกไปในพื้นที่นั้นๆ และบริเวณใกล้เคียงอีกหลายครั้ง จนได้ข้อมูลครบถ้วนและตรวจสอบความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหา

ทุกอณูบนผืนแผ่นดินไทย ทุรกันดารเพียงใด พระบาทนี้เคยเหยียบย่าง จึงมีข้อมูลจำนวนมากและถูกต้องชัดเจนกว่าใคร

ซึ่งทุกครั้งที่เสด็จออกพื้นที่จะได้ข้อมูลต่างๆ มากมายเช่น วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น พันธุ์พืชท้องถิ่น เป็นต้น นอกเหนือจากตำแหน่งและลักษณะภูมิศาสตร์ หรือการกินอยู่ของพสกนิกร ทำให้ปริมาณข้อมูลต่างๆ ที่ใช้ในการแก้ไขปัญหามีจำนวนมาก จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับข้อมูลมากดังพระบรมราโชวาทในงานพระราชทานปริญญาบัตรครั้งที่ 1 ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2519 ความว่า


 “...เดิมทีเดียว ข้าพเจ้าตั้งข้อคิดเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศไว้ว่า ในการทำโครงการพัฒนาเศรษฐกิจต่าง ๆ จะต้องอาศัยใช้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นหลัก และจะต้องใช้นักสถิติที่มีความรู้ความสามารถชั้นสูงเป็นผู้ปฏิบัติ...”

               และจากคำประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เนื่องในโอกาสที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ได้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาพัฒนบริหารศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทางสถิติประยุกต์ ตามมติสภาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในการประชุมครั้งที่ 1/2534 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2534 ความว่า

“…ด้วยพระราชดำริและพระราชหฤทัยที่มุ่งพัฒนาราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงเห็นว่าการพัฒนาที่จะได้ผลอย่างสมบูรณ์นั้น ควรดำเนินการให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่นนั้น ในยามที่เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียน และทรงตรวจติดตามโครงการตามพระราชดำริในท้องถิ่นห่างไกลนั้น ทรงรวบรวมข้อมูลและสถิติด้วยพระองค์เอง ภาพที่พสกนิกรของพระองค์คุ้นเคย เจนตา และเจนใจ คือภาพที่ทรงจดบันทึกข้อมูลและทรงเพิ่มเติมข้อมูลในแผนที่ท้องถิ่นนั้นๆ ของพระองค์ .... ทรงเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และทรงมีความรู้เกี่ยวกับขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์อย่างดีเยี่ยม ทรงสามารถแนะนำ ทดลอง และประเมินคุณค่าของเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการพัฒนาประเทศด้วยความเป็นธรรมและเห็นการไกล....”
ผศ.ดร.นิธินันท์ ธรรมากรนนท์
สาขาการจัดการระบบสารสนเทศและการจัดการข้อมูล
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

จากบทความที่ได้คัดมาให้อ่านกันในข้างต้น จึงกล่าวได้ว่า พระองค์เป็นราชาแห่งระบบสารสนเทศน์ ทรงใช้ศักยภาพของคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี และไอที เพื่อพัฒนาประเทศได้อย่างสูงสุด อย่างยากหาใครเปรียบได้ ทรงแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพื่อให้คุณภาพชีวิตของพสกนิกรดีขึ้น และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อเนื่องกันไป

ทีมา http://www.siamvariety.com/view-16177.html